google plus คืออะไร (Google+)
Google+ (Google Plus) คือโครงการของ Google ที่มีความพยายามมานานหลังจากมีการออกมายอมรับก่อนหน้านั้นว่า Google ขยับตัวช้าไปในเรื่องนี้แถมยังมีข้อเสนอพิเศษให้กับพนักงานที่สามารถคิดโครงการ Social Networks ให้ออกมาประสบความสำเร็จอีกด้วย
โดยก่อนหน้านี้เราคงเห็นปุ่ม
Google + ที่เปิดตัวกันไปก่อนหน้านี้แล้วซึ่งหลายคนก็ยังมีข้อสงสัยกันอยู่ว่ากดไปแล้วมันจะได้อะไร แหล่งปลายทางของข้อมูลที่กด Google+
นั้นจะไปอยู่ที่ไหน
วันนี้ทาง
Google เปิดตัว Social Networks ของตัวเองแล้วโดยใช้ชื่อว่า Google + (Plus) นั่นเองโดยเข้าไปเล่นกันได้ที่ https://plus.google.com
Google
+ ใช้ชื่อ Tagline เอาไว้ว่า “Real-life sharing, rethought for the web”
ซึ่งแน่นอนนี่คือคำเฉลยของข้อมูลจากปุ่ม Google+ ที่ออกมาก่อนหน้านี้
จะ
เห็นว่าใน Google + นั้นมีการใช้คำว่า +Circles
คือระบบเพื่อนนั่นเองที่จะสามารถสร้างกลุ่มเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน
ได้ และสามารถกำหนดเป็นกลุ่มๆได้ อย่างเช่น “เพื่อน”, “ครอบครัว”
และกำหนดจำนวนคนในกลุ่มได้มากกว่า 100 คนเพื่อใช้พูดคุยกันบนโลกออนไลน์ได้
ต่อ
จากนั้นก็เป็นเรื่องของการพูดคุยกันใน Google + โดยจะทีการใช้ชื่อว่า
+Sparks ที่มันจะคอยทำหน้าที่กำหนดสิ่งที่เราสนใจต่างๆเพื่อเข้าไปแชร์
ดูข้อมูลหรือสนทนาได้ (แบบ Group ) ยกตัวอย่างเช่นเราสนใจเรื่อง “รถยนต์”,
“การ์ตูน”, “แฟชั่น” เป็นต้น
ซึ่งเราสามารถระบุสิ่งที่ชื่นชอบเหล่านั้นได้แล้วก็จะมีข้อมูล feed
เข้ามาให้เราได้ดู คล้ายหลักการการเป็น Fan ของ Facebook นั้นเองที่เรากด
Like แล้วเมื่อต้นทางมีการอัพเดทข้อมูลเราก็จะได้เห็นด้วย แต่ +Sparks
จะดึงข้อมูลจาก Internet ที่มากกว่าผ่านปุ่ม Google +
เข้ามาแสดงผลด้วยซึ่งมันรองรับภาษาถึง 40 ภาษาในช่วงการเปิดตัวนี้เลย
ฟีเจอร์
ต่อไปนี้ถือว่าหลายคนคงชื่นชอบนั้นคือ +Hangouts
ฟังชื่อก็รู้แล้วว่ามันต้องเจ๋งแน่ๆ
เพราะมันเป็นการกำหนดอนาคตว่าเราต้องการจะไปปาร์ตี้ (ไปทำอะไรก็แล้วแต่)
โดยเพื่อนๆสามารถเห็นว่าเรา “ว่าง”
พร้อมที่จะออกไปสนุกสนานเรียกให้เพื่อนๆเข้ามาสนุกกับเราด้วย
หรือจะเรียกว่ามันคือฟีเจอร์นัดพบก็ว่าได้
แต่มันก็ไม่จำเป็นแค่เพื่อนเท่านั้นที่จะมาเจอกัน
เพื่อนของเพื่อนหรือจะใครต่อใครก็ได้เช่นกัน
ขาดไม่ได้เลยในยุคนี้คือ
Chat และแน่นอน Google
ให้ความสำคัญกับฟีเจอร์นี้พอสมควรโดยใช้ชื่อฟีเจอร์นี้ว่า + Huddle
ซึ่งมันสามารถทำการพูดคุยกันเป็นกลุ่มๆได้ด้วยเหมาะสำหรับการทำเป็น Gang
ซึ่งถ้าหลายคนเคยใช้งาน BlackBerry Messenger คงคุ้นกับการสนทนาเป็น Group
messaging นี้ดี
และเพื่อให้ Google +
สมบูรณ์แบบก็จะต้องมีบนมือถือด้วยโดย Google +
พร้อมให้ดาวน์โหลดไปใช้บนมือถือที่เรียกว่า +Mobile
โดยมีฟีเจอร์ต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นครบสมบูรณ์บนมือถือกันเลย
ซึ่งในอนาคตมันคงจะเข้าไปอยู่บนระบบ Android
ที่เป็นระบบปฏิบัติการบนมือถือของ Google อีกด้วย
โดยไปดาวน์โหลดมาใช้งานกันได้แล้วที่ A ndroid market
ว่าแล้วก็ไปลองใช้ Social Networks ตัวล่าสุดนี้กันเลยว่าจะสู้ Facebook อย่างที่ทาง Google คาดหวังไว้หรือไม่
ขณะนี้ (13 กค.54) ผู้ใช้
google+ มียอดคนใช้ถึง 10 ล้านคนทั่วโลกแล้ว
9 เหตุผลที่ควรย้ายจาก Facebook
มาใช้ Google+
ใน
ตอนนี้ ถ้าพูดถึง Facebook กับ Google+ (Google Plus)
คำถามแรกที่จะต้องได้ยินคือว่า Google+ จะมาแข่งกับ Facebook หรือเปล่า?
เพราะดูจากฟีเจอร์ที่มีแล้ว ค่อนข้างคล้ายคลึงกับ Facebook พอสมควรครับ
ถึงจะไม่เหมือนเป๊ะๆ แต่เชื่อว่า คนที่เคยเล่น Facebook มาก่อน
คงจะหันมาเล่น Google+ ได้ไม่ยากเช่นกัน วันนี้ผมมีบทความเกี่ยวกับ Google+
มาให้อ่านกันครับ ซึ่งเป็นบทความจากเว็บไซต์
macworld.com (แต่ต้นฉบับของบทความนี้ อยู่ที่เว็บไซต์
PCWorld.com ครับ) โดยผู้เขียนให้ได้เหตุผลถึง 9 ข้อด้วยกัน ลองมาดูกันครับว่า ทำไม เราควรย้ายจาก Facebook มาใช้ Google+ ครับ
1) Google+ สามารถเชื่อมโยงกับบริการอื่นๆ จาก Google ได้เชื่อว่า นี่อาจเป็นเหตุผลหลักที่จะช่วยผลักดันให้คนหันมาใช้ Google+
กันมากขึ้นครับ
เพราะ Google ได้สร้าง Google+ ให้เชื่อมต่อกับผลิตภัณฑ์ออนไลน์มากมายที่
Google สร้างสรรค์ไว้ให้ ถ้าคุณอยากจะเช็คเมล Google ก็มี Gmail
หรือถ้าหากคุณจะทำการเอกสาร Google เค้าก็มี Google Docs ไว้คอยบริการ
รวมไปถึงการค้นหาข้อมูลต่างๆ (Search) Google ก็ขึ้นชื่ออันดับ 1 เรื่อง
Search Engine อยู่แล้ว เรียกว่า ใช้แค่อย่างเดียว
ก็สามารถทำได้ทุกอย่างนั่นเองครับ ที่สำคัญคือ
บริการต่างๆ เหล่านั้น ใช้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ Facebook ยังทำไม่ได้ครับ
2) Google+ บริหารจัดการกลุ่มเพื่อนได้ดีกว่าที่ผู้เขียนเค้าบอกว่า Google+ จะสามารถบริหารจัดการกลุ่มเพื่อนได้ดีกว่า
ก็เพราะฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า Circles นั่นเองครับ
ซึ่งในชีวิตจริงนั้น เรามีเพื่อนหลายประเภท
และมีวิธีสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ในวิธีที่แตกต่างกันไป จึงทำให้เกิด Circle
ขึ้นมาแบ่งแยกว่า อันนี้คือ กลุ่มเพื่อนที่โรงเรียนนะ อันนี้เป็นผู้ร่วมงาน
อันนี้เป็นเพื่อนที่มหาลัย ถ้าถามว่า แล้ว Facebook
ไม่มีการจัดการแบบนี้หรือ จริงๆ แล้วมีครับ แต่จะทำได้ “ยุ่งยากกว่า”
(เขาให้เหตุผลมาแบบนี้ครับ) เพราะ Groups ใน Facebook
เป็นแค่ฟังก์ชั่นที่เพิ่มขึ้นมา แต่ Circles ใน Google+ เป็น “รากฐาน” ที่
Google ได้สร้างขึ้นมานานแล้วนั่นเองครับ
3) Google+ มี Mobile App ดีกว่า
ใคร
ที่ใช้แอนดรอยด์โฟนอยู่ จะพบว่า
การจะเข้าคอนเทนต์อะไรซักอย่างจากโทรศัพท์มือถือ ทำได้ง่ายมากครับ อีกทั้ง
Google+ Mobile App (ผู้เขียนบอกว่า) เป็น App ที่ยอดเยี่ยมมาก ด้วยเหตุนี้
Google จึงกำลังหาทางทำให้แอนดรอยด์โฟน เชื่อมต่อกับ Google+
ได้อย่างไร้ที่ติ เพื่อเป็นยกระดับ Mobile App ให้ดีขึ้นไปอีก เพราะ Google
หวังว่า อยากจะให้ Google+ นั้น
เป็นฐานรวมผู้ใช้แอนดรอยด์ที่ใหญ่ที่สุดครับ
4) Google+ หาบทความ/สิ่งที่น่าสนใจ มาแชร์ได้ง่ายกว่า
เหตุผลที่ผู้เขียนบอกว่า Google+ หาของมาแชร์ได้ง่าย
เพราะมีฟีเจอร์ที่ชื่อ Sparks ครับ โดยอาศัยข้อมูลจาก Search Engine อย่าง Google นั่นเอง
เมื่อเปรียบเทียบกับ Facebook แล้ว Facebook ไม่มี Search Engine
ในตัวครับ ถ้าจะหาข้อมูลดีๆ ก็ต้องเปิดเว็บและทิ้งลิงค์เอาไว้ภายหลัง
หรือไม่ก็ต้องรอเพื่อนมาแชร์ แต่ถ้าใช้ Google+ ปัญหาต่างๆ
เหล่านี้จะหมดไปด้วยฟีเจอร์ Sparks ครับ
5) Google+ สามารถดึงข้อมูลกลับมาได้
Facebook
นั้น สามารถบริหารจัดการข้อมูลส่วนตัวได้ค่อนข้างยากกว่า Google+ ครับ
เพราะข้อมูลส่วนตัวบางอย่าง เราอยากจะเก็บไว้เป็นความลับ แต่ Facebook
นั้นจะบังคับให้เราเปิดเผยข้อมูลบางส่วนนั้นเป็น “Public” (สาธารณะ) ไม่ใช่
“Private” (ส่วนตัว) นอกจากนี้ การลบ Account บน Facebook
ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกันครับ อีกทั้งถ้าหากลบแล้ว ก็คือลบเลย
เกิดวันนึงอยากได้รูปที่เคยโพสลง Facebook ก็เอากลับมาไม่ได้แล้ว เพราะ
Account ถูกลบไปแล้ว
แต่บน Google+ เราสามารถทำได้ครับ แม้ว่า Account ของเราจะถูกลบไปก็ตาม เพราะบน Google+
มีฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Data Liberation ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งรูป, โปรไฟล์, Stream, Buzz รวมไปถึง รายชื่อผู้ติดต่อ ได้อีกด้วยครับ
6) Google+ มีระบบการ Tag รูปดีกว่า
สำหรับ
การ Tag รูปนั้น ทั้ง Facebook กับ Google+ สามารถทำได้เหมือนกันคือ
จิ้มที่หน้าคนที่เราต้องการจะ Tag แล้วใส่ชื่อ แต่สิ่งที่ผู้เขียน
ได้เขียนเพิ่มลงไปก็คือว่า บน Google+ นั้น
จะมีการส่งข้อความแจ้งคนที่เราเพิ่งใส่ชื่อ Tag ไปว่า เราได้ Tag เค้าไปนะ
ซึ่งตรงนี้ ผมคิดต่างครับ เพราะ Facebook ก็มีระบบแจ้งเตือนเวลาเราโดน Tag
รูปเหมือนกัน เลยไม่คิดว่า จุดนี้ Google+ จะแตกต่างจาก Facebook ครับ
7) Google+ มีระบบแชทที่เยี่ยมกว่า
จริงๆ แล้วทั้ง Facebook กับ Google+ ก็มีระบบแชทด้วยกันทั้งคู่
เพียงแต่ Google+
อาจจะได้เปรียบกว่าตรงที่ Google เองก็มีระบบแชทที่ชื่อว่า Google Talk อยู่แล้ว
ซึ่งได้นำระบบบางอย่างบน Google Talk มาปรับใช้กับ Google+ ครับ
ทำให้สามารถใช้ Video Chat ได้, คุยกันเป็นกลุ่ม Circles ได้
แถมด้วยโปรแกรมแชทอย่าง Huddle ซึ่งตรงนี้ถือว่า Google+ เหนือกว่า
Facebook อยู่หลายขุมครับ
8) Google+ มีระบบการแชร์ที่ปลอดภัยกว่าความ
ปลอดภัยในการแชร์ข้อมูลในที่นี้ หมายถึง เวลาที่เราอัพเดทข้อความ, รูป
หรืออะไรก็ตามแต่ เราสามารถตั้งค่าได้ว่า ใครกันที่สามารถมองเห็นได้
จะให้เห็นกันทั้ง Circles หรือให้เฉพาะบุคคลเห็น Google+ ก็สามารถทำได้ครับ
“แต่” จริงๆ แล้ว Facebook ก็ทำได้เหมือนกันครับ เพียงแต่ว่า
ไอคอนการตั้งค่าเล็กเกินไป (สังเกตหน้า Facebook ครับ
ด้านล่างที่เราจะโพสข้างๆ ปุ่ม Share จะมีไอคอนรูปแม่กุญแจอยู่) ทำให้หลายๆ
คนอาจจะมองไม่เห็น ก็เลยคิดไปว่า Facebook คงทำไม่ได้แน่ๆ แต่ Google+
เค้าดึงฟีเจอร์นี้ออกมาให้เห็นกันชัดๆ ครับ
แต่ใครที่เคยตั้งค่าความเป็นส่วนตัวกันไปก่อนหน้านั้น ต้องระวังนิดนึงครับ
เพราะทั้ง Facebook กับ Google+ จะจำการตั้งค่าครั้งล่าสุดเอาไว้ ฉะนั้น
ก่อนจะโพสอะไร ต้องมั่นใจเลยว่า เราโพสไปหาไม่ผิดคนแน่ๆ
9) Google ดูแลข้อมูลส่วนตัวได้ดีกว่า
ใน
ข้อนี้ ผมไม่ขอให้ความเห็นว่าระหว่าง Facebook กับ Google
ใครจะปกป้องข้อมูลส่วนตัวไม่ให้รั่วไหลได้มากกว่ากัน เพราะส่วนใหญ่แล้ว
พวกรูปหลุดเอย ข้อมูลหลุดเอย
ก็มักจะมาจากเจ้าของมากกว่าครับที่อาจจะตั้งค่าพลาดเอง
หรือไม่ก็มาจากกลุ่มเพื่อนเสียมากกว่า
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/eec/2011/08/13/entry-1